hakodate-mornibgmarket-4

เที่ยวเมืองฮะโกดาเตะ โอะตะรุ ฟูราโน่ ซับโปโรเกาะฮอกไกโด

เที่ยวเมืองฮะโกดาเตะ โอะตะรุ ฮอกไกโดด้ายตนเอง

เมืองฮาโกดาเตะ ( Hakodate)

เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของออกไกโด อยู่ในกิ่งจังหวัดโอะชิมะ ตั้งอยู่ตอนใต้สุดของฮอกไกโด เชื่อมต่อการเดินทางกับเกาะฮอนชูได้สะดวกเช่นทางรถไฟที่มีอุโมงค์ลอดใต้น้ำ ทางเรือ และทางอากาศ เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศษฐกิจเนื่องจากเป็นเมืองท่าและยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเป็นเมืองที่ได้มีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมในประเทศแถบตะวันตกและของชาวญี่ปุ่นเองเข้าไว้ด้วยกันอย่างน่าสนใจด้วยเนื่องจากเป็นเมืองที่มีการเปิดให้ทำการค้ากับต่างประเทศได้ในปี 1859 เช่นเดียวกับเมือง Yokohama และ Kobe จึงจะเห็นว่ามีโบสถ์ชาวคริสต์ในเมืองนี้ด้วย นักท่องเที่ยวที่มาที่เมืองฮาโกดาเตะ( Hakodate) ไม่ควรพลาดที่จะไปเที่ยวตลาดเช้า Moring market , Asaichi  เพื่อลิ้มลองอาหารพื้นถิ่นทั้งอาหารทะเลสดๆกันที่นี่ด้วยโดยตลาดจะอยู่ใกล้กับ Hakodate station ชมวิวทิวทัศน์ ที่สวยงามจากภูเขาฮาโกดาเตะ ชมโกเรียวคาคุ Goryokaku ป้อมปราการรูปดาวที่เป็นสถานที่พิเศษทางประวัติศาสตร์ที่สร้างเมื่อ 150 ปีมาแล้วและมีบริเวณที่ปลูกต้นซากุระไว้มากว่า 1,600 ต้น ที่มองเห็นทัศนียภาพแบบมุมกว้างจากหอชมวิวที่อยู่ติดกันมีค่าเข้าชม 500 Yen ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีฮาโกดาเตะ เดิน 20 นาทีหรือนั่งรถรางถึง โกเรียวคาคุ ชมอุทยานโอนุมะ Onuma Koen  ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รายล้อมด้วยภูเขา ทะเลสาบและป่า สามารถเดินทางโดยรถไฟ JR ด่วนพิเศษจากสถานี Hakodate ใช้เวลา 20 นาที เป็นต้น

                                                       

การเดินทาง โดยรถบัสจาก Sapporo station ถึง Hakodate station โดย Hokkaido Chuo Bus,Danan bus,Hokuto Kotsu ราคาประมาณ 4,810 Yen ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง 35 นาที /โดยเครื่องบิน เมื่อนั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบิน Hokodate Airport แล้ว นั่งรถบัสต่อไปอีก 20 นาทีเพื่อเข้าในเมืองลงที่สถานี JR Hakodate Station / เดินทางโดยรถไฟ JR จาก Sapporo Station ไป Hakodate Station โดย Limited express”Hokuto’”Super Hokuto” ราคาประมาณ 10,510 Yen ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง

ค้นหาโรงแรมราคาโปรโมชั่นในฮาโกดาเตะ ญี่ปุ่นที่น่าสนใจได้ที่นี่

ลา โจลี โมะโตะมะชิ บาย ดับเบิลยูบีเอฟ ฮะโกะดะเตะ, ฮะโกะดะเตะ, ญี่ปุ่น…จองเลย

เมืองโอะตะรุ( Otaru)

เป็นเมืองท่าในกิ่งจังหวัดชิริเบะชิในจังหวัดฮอกไกโด อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของนครซัปโปโร ซึ่งถือเป็นเมืองท่าที่มีบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก รวมถึงการตกแต่งของบ้านเรือนนั้น ส่วนใหญ่ได้ถูกออกแบบเป็นสไตล์ตะวันตกเนื่องจากในอดีต เมืองโอตารุได้รับอิทธิพลมาจากการทำการค้าระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศในแถบยุโรป ชมความสวยงามของเมืองเลียบคลองโอะตะรุอันสวยงามน่าประทับใจ คลองโอะตะรุเป็นคลองที่เกิดขึ้นจากการถมทะเล สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1923 เพื่อเป็นเส้นทางขนถ่ายสินค้าจากเรือใหญ่สู่โกดังในเมือง ภายหลังเลิกใช้จึงถมคลองครึ่งหนึ่งเป็นถนนสำหรับนักท่องเที่ยวแทนโกดังต่างๆ ซึ่งเป็นอาคารอิฐสีแดงจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง และปัจจุบันได้ปรับปรุงเป็นร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหาร

การเดินทาง นั่งรถไฟจากสถานีสนามบิน New Chitose Airport ไปถึงสถานี Otaru station โดย JR Chitose-Hakodate Line ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วมง 11 นาที หรือซื้อตั๋ว Saporo-Otaru Wlcome Pass ซึ่งเป็น One day ticket   ใช้เดินทางจาก ซัปโปโร- โอะตะรุ และสามารถใช้เดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดินในเมืองซัปโปโรทุกเส้นทางราคา 1,700 เยน ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่    www2.jrhokkaido.co.jp/global/english/railpass/welcome.html

เมืองฟูราโน่ (Furano)

มีชื่อเล่นว่า The navel town เนื่องจากตั้งอยู่ในตอนกลางของจังหวัดฮอกไกโดมีความสวยงามทางธรรมชาติตลอดปีในทุกฤดูการที่แตกต่างกัน มีชื่อเสียงที่รู้จักกันสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะไปเยี่ยมชมความสวยงามของฟาร์มดอกลาเวนเดอร์ในฤดูร้อนซึ่งจะมีงานเทศกาลต่างๆในเมืองนี้ ให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวชมกัน และชมละอองหมู่ดาวบนท้องฟ้าที่สวยงามในฤดูหนาว ชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และชมดอกไม้นานาชนิดเบ่งบานตามแนวถนนสองข้างทางในฤดูใบไม้ผลิ เมืองฟูราโน่อยู่ในพื้นที่ลักษณะเป็นเหมือนแอ่งกระทะที่ถูกห้อมล้อมด้วยเทือกเขา ทำให้เมืองฟูราโน่มีอากาศเย็นและแห้งประกอบกับดินแถบนั้นเป็นดินภูเขาไฟ จึงเหมาะแก่การเพาะปลูกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรโดยเฉพาะดอกไม้

“โทมิตะ ฟาร์ม” ฟาร์มของนักบุกเบิกรุ่นแรกๆ ของฮกไกโด ที่ดอกไม้นานาชนิดจะเบ่งบานให้ชื่นชมตามฤดูกาล (ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ) อาทิเช่น ดอกฮามานะสึในเดือนมิถุนายน, ดอกลาเวนเดอร์และดอกป๊อปปี้ ในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม, กลางเดือนสิงหาคมไปแล้วเป็นดอกคอสมอส ซึ่งแต่ละเดือนจะมีชนิดดอกไม้ต่างกันไป ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมความงามของทุ่งดอกไม้ที่ไกลสุดลูกหูลูกตา จนขนานนามกันว่าเนินเขาสายรุ้ง

การเดินทาง  ถ้าเดินทางจากซัปโปโร (Sapporo) โดยรถบัสของ Hokkaido Cho Bus (Express Furano) ไปถึง Furano ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง / เดินทางจาก Asahikawa airport โดยรถบัสของ Furano bus (Lavender) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที / นั่ง JR Furano Line จาก Asahikawa ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที ไปถึง Furano ( JR Hokkaido link www2.jrhokkaido.co.jp/global/index.html) : ซึ่งจากสถานี JR Furano สามารถการเดินทางไปยังจุดท่องเที่ยวต่างๆต่อได้เช่นในช่วง summer เดือน กรกฏาคม-สิงหาคม จะมี bus tour one day trip (Kururu Go Pass) ของ Kururu bus ราคาพิเศษ 1,200 Yen /day สำหรับนักท่องเที่ยวเช่นสามารถเที่ยว Farm Tomita,Furano Winery,Furano Cheese Factory,Furano Marche เป็นต้น

เมืองซัปโปโร (Sapporo)

เมืองหลวงของเกาะ ฮอกไกโด (Hokkaido) ศูนย์กลางความเจริญอันดับ 5 ของญี่ปุ่น ผังเมืองซัปโปโรจะแตกต่างจากบรรดาหมู่บ้านและเมืองทั่วไปในญี่ปุ่นซึ่งมีลักษณะคล้ายตารางหมากรุกเนื่องจากได้รับคำแนะนำและพัฒนาจากผู้เชี่ยวชาญชาวอเมริกัน ดังนั้นผังเมืองจึงถูกออกแบบเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าตามพื้นฐานการวางผังเมืองของอเมริกา ในเมืองซัปโปโรมีจุดท่องเที่ยวที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่นให้ได้เที่ยวชม

อาทิเช่น การชมด้านนอกของทำเนียบรัฐบาลเก่าฮอกไกโดที่เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2416 เป็นอาคารสไตล์นีโอบาร็อคอเมริกาที่ใช้อิฐมากกว่า 2.5 ล้านก้อนเป็นอิฐที่ทำมาจากหมู่บ้านซิโรอิชิและโทโยชิร่า ตึกนี้ผ่านการใช้งาน มายาวนานกว่า 80 ปีแต่ความงดงามที่เห็นนั้นได้รับการบูรณะซ่อมแซมใหม่หลังจากถูกไฟไหม้เมื่อปี พ.ศ. 2454 แต่ด้วยความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลงเหลืออยู่ไม่กี่แห่ง จึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมสำคัญของชาติเมื่อปีพ.ศ. 2512 หอนาฬิกาซัปโปโร เป็นหอนาฬิกาที่เก่าแก่และเป็นอีกสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองซัปโปโรอีกแห่งหนึ่ง สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2421 เดิมทีเป็นโรงฝึกงานของมหาวิทยาลัย ฮอกไกโด (Hokkaido university ) แต่ได้ปรับเปลี่ยนสร้างเป็นหอนาฬิกาและมีระฆังตีบอกเวลาตั้งแต่ พ.ศ.2424 จนถึงปัจจุบันก็ยังสามารถบอกเวลาได้อยู่ และด้วยความเก่าแก่ที่อยู่คู่กับเมืองซัปโปโรมานานจึงได้รับการขึ้นทะเบียน ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ในยามค่ำคืนนักท่องเที่ยวนิยมไปที่ย่านซูซูกิโนะ (Susukino) ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณรอบๆ สถานีรถไฟใต้ดินซูซูกิโนะ (susukino station) เมืองซัปโปโร โดยอยู่ถัดลงมาทางใต้ของสวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park ที่นิยมจัดงานเทศกาลต่างๆโดยเฉพาะเทศกาล Snow Festival เล่นหิมะในฤดูหนาว) ประมาณ 500 เมตร ซึ่งถือเป็นย่านที่คึกคักและมีชีวิตชีวาที่สุดของซัปโปโร โดยเฉพาะในยามค่ำคืนที่มีการเปิดไฟตามป้ายไฟโฆษณาสีสันต่างๆ บนตึกที่ตั้งอยู่ในย่านแห่งนี้ นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร ภัตตาคาร สถานบันเทิงเริงรมย์ยามราตรีต่างๆ ทั้งไนท์คลับ บาร์ คาราโอเกะ สถานอาบอบนวด มากกว่า 4,000 ร้าน ตามตรอกซอกซอย นักท่องเที่ยวจะนิยมมาที่นี่กัน

การเดินทาง ในซัปโปโรเดินทางโดยใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน ( Sapporo Municipal Subway )ซึ่งจะสะดวกต่อการท่องเทียวชมเมืองซัปโปโรได้มากที่สุด ซึ่งจะมี 3 สาย Namboku Line สายสีเขียว ,Tozai Line สายสีส้ม,Toho Line สายสีฟ้า โดยทุกสายจะมีจุดเชื่อมต่อที่สถานี Odori Station ทั้งเชื่อมต่อการเดินทางโดยบริการอื่นๆด้วยเช่น streetcar,รถบัส, รถไฟ JR Lines,ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ใช้ รถไฟฟ้าใต้ดินในการเดินทางไปทำงานและโรงเรียน ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่www.city.sapporo.jp/st/english/routemap.html

อ่านเพิ่มเติมการเดินทางในญี่ปุ่น

Add a Comment

You must be logged in to post a comment