อาหารเมนูแกงเขียวหวาน ผัดเขียวหวาน
น้ำพริกแกงเขียวหวาน 5 สูตร
สูตรน้ำพริกแกงเขียวหวาน ทำด้วยตนเอง
ปริมามาณ 1 ช้อนแกงเป็นการประมาณเทียบกับ 1 ช้อนโต๊ะ 1 ช้อนชาให้ใช้ช้อนเล็กสำหรับคนชากาแฟ แทนกรณีที่ไม่มีช้อน-ถ้วยตวง แบบมาตรฐานเพื่อความสะดวก
แกงเขียวหวานหากต้องการเพิ่มสีเขียวให้น้ำแกงให้นำใบพริกหรือใบผักชีโขลกละเอียดแล้วกรองเอาแต่น้ำสีเขียวลงไปผัดพร้อมเครื่องแกง
สูตรที่แนะนำนี้ปริมาณเครื่องแกงที่ได้ จะแกงได้ประมาณ 1 หม้อ หรือประมาณหัวและหางน้ำกะทิรวมกัน 3-6 ถ้วยขึ้นอยู่กับความเข้มข้นที่ต้องการตามใจชอบดังนั้นเมื่อโขลกเครื่องแกงเสร็จแล้วให้ตักขึ้นพักไว้แล้วค่อยแบ่งใส่ตามปริมาณที่ต้องการหากเหลือให้ใส่ตู้เย็นเก็บไว้ได้ สำหรับปริมาณส่วนผสมต่างๆสามารถปรับได้ตามความชอบขอแค่ให้มีรายการส่วนผสมหลักที่แนะนำครบเท่านั้นก็จะได้หน้าตาและรสชาดของแกงเขียวหวานที่ปรุงรสเพิ่มด้วยน้ำตาลปิ๊บและน้ำปลาตามชอบถ้าใครไม่กินน้ำตาลก็ไม่ต้องใส่เน้นเผ็ด มันกะทิ เค็มเล็กน้อยได้
1น้ำแกงแกงเขียวหวาน สูตร1 ส่วนผสม 10 อย่าง โขลกรวมกันให้ละเอียด
1.พริกขี้หนูสวนสีเขียว 1 ขีด (100 กรัม) หากชอบเผ็ดเพิ่มได้ 50 กรัม
2.เกลือ ½ ช้อนชา
3.ลูกผักชีคั่ว ½ ช้อนชา
4.ยี่หร่าคั่ว ¼ ช้อนชา หรือถ้าชอบกลิ่นฉุนใส่ ½ ช้อนชา
5.พริกไทยขาวเม็ด 2ช้อนแกง
6.กระเทียมไทยกลีบเล็ก 1 ขีด (100 กรัม)
7.หอมแดงหั่น 1 ขีด (100 กรัม)
8.ข่าแก่หั่นละเอียด 3 ช้อนแกง
9.ตะไคร้ 3-4 ต้น
10.กะปิ 1ช้อนโต๊ะ
แนะนำใช้กับแกงเขียวหวานที่ช่วยลดกลิ่นคาวจากการใช้เนื้อสัตว์ที่มีคาวมากเป็นส่วนประกอบและชอบความหอมของเครื่องเทศ เช่นเนื้อปลา ลูกชิ้นปลากราย ปลาดุก เป็นต้น
2น้ำพริกแกงเขียวหวาน สูตร2 ส่วนผสม 10 อย่าง โขลกรวมกันให้ละเอียด
1.ใช้พริกสองชนิดรวมกัน พริกชี้ฟ้าสีเขียว 10 เม็ดแกะเมล็ดออกหั่นเป็นชิ้นเล็กเพื่อให้โขลกละเอียดง่ายขึ้น
2.พริกขี้หนูสวนสีเขียวสีแดงรวมกัน 20 เม็ดเพื่อความเผ็ด
3.เกลือ ½ ช้อนชา
4.พริกไทยขาวเม็ด 1 ช้อนชา
5.กระเทียมไทยกลีบเล็ก 2 ช้อนแกง
6.หอมแดงหั่น 3 ช้อนแกง
7.ข่าแก่หั่นละเอียด 1 ช้อนชา
8.ตะไคร้ซอย 3 ต้น
9.ผิวมะกรูดซอยละเอียด 1 ช้อนชา
10.กะปิ 1ช้อนโต๊ะ
สูตรนี้สำหรับคนไม่ชอบกลิ่นฉุนเครื่องเทศแต่ใช้ความหอมจากพริกไทยเข้มข้นจากกะปิ
3น้ำพริกแกงเขียวหวาน สูตร3 ส่วนผสม 7 อย่าง โขลกรวมกันให้ละเอียด
1.พริกขี้หนูสีเขียว 1 ทัพพี
2.เกลือ ½ ช้อนชา
3.กระเทียมไทยกลีบเล็ก 2 ทัพพี
4.หอมแดงหั่น 2 ทัพพี
5.ข่าแก่หั่นละเอียด 1 ช้อนชา
6.ตะไคร้ซอย 2 ต้น
7.ผิวมะกรูดซอยละเอียด 1 ช้อนชา
สูตรนี้สำหรับคนที่ไม่ชอบความฉุนของเครื่องเทศ ไม่กินกะปิ และมีเครื่องปรุงแบบจำกัดต้องการความเร่งด่วนหรือไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศไทยซึ่งจะหาเครื่องปรุงเครื่องเทศหลากหลายชนิดได้ยาก
4น้ำพริกแกงเขียวหวาน สูตร 4 ส่วนผสม 10 อย่าง โขลกรวมกันให้ละเอียด
1.ใช้พริกรวมกันสองชนิด สีเขียวจาก พริกขี้หนูสวนสีเขียว 30 เม็ด พริกชี้ฟ้าสีเขียว 3 เม็ด
2.เพิ่มความเผ็ดจากพริกขี้หนูสีแดง 10 เม็ด พริกชี้ฟ้าสีเหลือง 3 เม็ด
3.เกลือ ½ ช้อนชา
4.เปราะหอมคั่วป่น 2 ช้อนชา
5.กระเทียมไทยกลีบเล็ก 3 ช้อนแกง
6.หอมแดงหั่น 2 ช้อนแกง
7.ข่าแก่หั่นละเอียด 1 ช้อนแกง
8.ตะไคร้ 3 ต้น
9.กะปิ 1ช้อนโต๊ะ
10.ผิวมะกรูดซอยละเอียด 1 ช้อนชา
แนะนำใช้กับแกงเขียวหวานที่เนื้อสัตว์ไม่คาวมากเช่น ไก่ หมู เนื้อเป็นต้น
5น้ำพริกแกงเขียวหวาน สูตร 5 ส่วนผสม 14 อย่างเครื่องเทศเยอะ สูตรใส่ขมิ้น โขลกรวมกันให้ละเอียด
1.พริกขี้หนูสีเขียว 1/2 ขีด (50 กรัม)
2.เกลือ ½ ช้อนชา
3.รากผักชีหั่น 1ช้อนแกง
4.ลูกผักชีคั่ว ½ ช้อนชา
5.ยี่หร่าคั่ว 1 ช้อนชา
6.ลูกจันทน์คั่วป่น ½ ช้อนชา
7.พริกไทยขาวเม็ด 1 ช้อนชา
8.กระเทียมไทยกลีบเล็ก 1 ทัพพี
9.หอมแดงหั่น 3 ช้อนแกง
10.ข่าแก่หั่นละเอียด 1 ช้อนแกง
11.ตะไคร้ 1 ต้น
12.กะปิ 1ช้อนโต๊ะ
13.ขมิ้นหั่นละเอียด 1 ช้อนแกง
14.ผิวมะกรูดซอยละเอียด 1 ช้อนชา
แนะนำใช้กับแกงเขียวหวานที่ช่วยลดกลิ่นคาวจากการใช้เนื้อสัตว์ที่มีคาวมากเป็นส่วนประกอบและชอบความหอมของเครื่องเทศเป็นพิเศษและขมิ้นแบบเครื่องแกงใต้ เช่นเนื้อปลา ลูกชิ้นปลากราย ปลาดุก ปลาหมึก ปลาทะเล เป็นต้น
6น้ำพริกแกงเขียวหวาน สามารถเพิ่มหรือ ตัดออกเครื่องเทศบางอย่างตามชอบได้ คือ ยี่หร่าป่น ลูกผักชีป่น ลูกจันทน์ป่น รากผักชี เปราะหอม พริกไทยขาว กะปิ ขมิ้น ผิวมะกรูด แต่หากมีเครื่องเทศเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่งเป็นส่วนประกอบก็จะทำให้เครื่องแกงมีรสชาดและความหอมเฉพาะตัว ใครชอบสูตรไหนหรือจะลองทำกิน ครั้งละ 1 สูตรเพื่อเปลี่ยนตามใจชอบไม่น่าเบื่อในแต่ละครั้งก็ได้นะคะ
น้ำพริกแกงเขียวหวานแบบสำเร็จรูป มีขายตามตลาด ห้างสรรพสินค้าทั่วไป สำหรับคนที่ไม่สะดวกในการทำเครื่องแกงเอง เช่น หนุ่ม สาวออฟฟิศ คนทำงานเร่งด่วนมีเวลาน้อย หรือนักศึกษา แม่บ้านคนไทยในต่างแดน ถึงแม้รสชาดจะไม่เหมือนที่ตำเครื่องแกงเองสดใหม่แต่รสชาดก็อร่อยไปอีกแบบ มีหลายยี่ห้อให้เลือกสามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ จากแหล่งช้อปปิ้งออนไลน์ต่างๆ ช้อปฟี่/shophee, ลาซาด้า/lazada, ห้างแม็คโคร/makroclick, โลตัส/lotuss, บิ๊กซี/bigc เป็นต้น
เครื่องปรุงรส
น้ำปลา /ผงปรุงรสหรือก้อนน้ำซุปรสไก้หรือหมู / กะทิ
เนื้อสัตว์ทำแกงหรือผัดเขียวหวาน
- ไก่ (แกงเขียวหวานไก่)
- หมู (แกงเขียวหวานหมู)
- กุ้งสด(แกงเขียวหวานกุ้งสด)
- เนื้อวัว(แกงเขียวหวานเนื้อ)
- ปลาสลิดแดดเดียวทอด(แกงเขียวหวานปลาสลิด)
- ลูกชิ้นปลากราย(แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย)
- ปลาดุก(แกงเขียวหวานปลาดุก)
ผักที่ใส่เมนูแกงเขียวหวาน
- มะเขือเปราะ/ มะเขือยาว/ มะเขือม่วง
- มะเขือพวง
- ฟักเขียว
- เนื้อมะพร้าวอ่อน
- ใบโหระพา
ผักเลือกตามที่ชอบ เช่นแกงเขียวหวานกุ้งสดใส่เนื้อมะพร้าวอ่อน, แกงเขียวหวานไก่ใส่มะเขือเปราะ, แกงเขียวหวานเนื้อใส่มะเขือม่วง เป็นต้น แต่มะเขือพวงและใบโหระพาต้องมี
วิธีทำอาหารเมนูแกงเขียวหวาน
วิธีทำแกงแกงเขียวหวานนั้นแม้ว่าชื่อเมนูอาหารจะแตกต่างกันตามเนื้อสัตว์ที่เลือกทำแบบไหนก็ตาม จะใช้เครื่องปรุง น้ำพริกเครื่องแกง ผัก ขั้นตอนการทำ เช่นเดียวกันทั้งหมดนะคะ
1.หั่นมะเขือเปราะแช่น้ำเกลือเตรียมไว้หรือเลือกเป็น ฟักเขียว มะเขือยาวแทนก็อร่อยค่ะ
2.นำเครื่องแกงเขียวหวานครึ่งช้อนแกง กะปิเล็กน้อยประมาณปลายช้อน เพิ่มความเผ็ดด้วยพริกสดตามชอบ ตะไคร้ กระเทียมหอมแดง รากผักชีเล็กน้อยโขลกรวมกัน / หากไม่ต้องการเพิ่มความเข้มข้นเครื่องแกง ก็ใช้แค่เครื่องแกงที่ซื้อมาก็ได้นะคะ
(อย่าใส่น้ำปลาทันที รอชิมถ้าจืดค่อยเติมเพราะจะมีความเค็มจากเครื่องแกงและกะปิอยู่แล้ว)
3.ตั้งกระทะ เทน้ำมะพร้าวครึ่งถ้วยลงไป รอเดือด ฉีกใบมะกรูด และเครื่องปรุงที่เตรียมไว้ลงไปผัดให้มีกลิ่นหอม ตามด้วยเนื้อสัตว์ตามชอบ คนให้เข้ากันพอเนื้อเริ่มร่วนใส่มะเขือพวง มะเขือเปราะ แล้วก็เทน้ำเปล่าลงไปพอท่วม ใส่ผงปรุงรสน้ำซุป1ช้อนโต๊ะปิดฝาไว้รอสุก
4.พอสุกเติมน้ำกะทิลงไปอีกเล็กน้อยปิดท้าย ใส่ใบโหระพาลงไป ปิดไฟ
วิธีทำผัดน้ำพริกแกงเขียวหวาน
1.ใส่น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะในกระทะ
2.ใส่น้ำพริกแกงเขียวหมานลงไปผัดพร้อมเนื้อสัตว์ที่หั่นเตรียมไว้ให้เข้ากัน จากนั้นเติมน้ำเปล่าเล็กน้อย รอเนื้อเริ่มสุก
3.เติมผักต่างๆที่หั่นเตรียมไว้ และมะเขือพวง
4.ผัดรวมกัน ปิดฝารอประมาณ2-3นาทีให้ผักและเนื้อสุกเข้ากัน
5.เปิดฝาใส่ใบโหระพาคนให้เข้ากัน ปิดไฟตักใส่จานพร้อมรับประทาน
Tips: หากต้องการทำเป็นข้าวผัดแกงเขียวหวานก็ให้เติมข้าวลงไปคลุกผัดรวมกันในขั้นตอนสุดท้าย